BACK

 

 

ผ่าขุมกำลังทีมชาติไทยก่อนลุย “ไชน่า คัพ 2019”

18 มี.ค. 2562

ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ 23 ขุนพลทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปลุยทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ณ แดนมังกรอย่าง “ไชน่า คัพ 2019”
ที่ มณฑล หนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2562 ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่า เดย์

การแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าวถือได้ว่ามีความสำคัญกับทีมชาติไทยมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีการนับ คะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ในระดับ International “A” Match
โดย 4 ทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติจีน ในฐานะเจ้าภาพ อันดับ 72 ของโลก, ทีมชาติอุรุกวัย ในฐานะแชมป์เก่า อันดับ 7 ของโลก,
ทีมชาติอุซเบกิสถาน อันดับ 89 ของโลก และทีมชาติไทย อันดับ 115 ของโลก

หากจะบอกว่าเราเตรียมเดินทางไปหาประสบการณ์ เห็นทีคำพูดนี้อาจจะใช้ไม่ได้ เนื่องจากคู่แข่งที่เราเจอในเกมแรกอย่างทีมชาติจีนนั้นเรียกได้ว่าฝีเท้าสูสีกับเรา
เห็นได้จากในศึกเอเชียน คัพ 2019 ที่ผ่านมา ที่แม้ว่าไทยจะเพลี่ยงพล้ำในช่วงครึ่งหลัง แต่ด้วยสกอร์ และรูปเกมที่ออกมา ก็พอจะบอกได้ว่าเราเอง “สู้ได้”

วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันถึงขุมกำลังชุดนี้ว่าพร้อมแค่ไหนกับการเดินทางไปถลกหนังมังกรถึง กว่างซี
และถ้าทำผลงานได้ดี เผลอๆ แฟนบอลชาวไทยอาจจะมีสิทธิ์ได้เชียร์ทีมรักลงฟาดแข้งกับแข้ง “จอมโหด” อดีตแชมป์โลกสองสมัย
อย่าง อุรุกวัย ที่ขนสตาร์ดังมาเต็มอัตราศึกในรอบชิงชนะเลิศก็เป็นได้…

#ผู้รักษาประตูไม่มีพลิกโผ
เรียกได้ว่าไม่มีเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เพราะทั้ง ศิวรักษ์ และฉัตรชัย ต่างเป็นมือหนึ่ง และสองของทีมชุดนี้อยู่แล้ว
เมื่อรวมถึงอาการบาดเจ็บของ สรานนท์ อนุอินทร์ ที่พักยาวร่วมสองเดือน จึงทำให้อีกหนึ่งโควต้าตกเป็นของจอมหนึบจาก “สิงห์เจ้าท่า” อย่าง วรวุฒิ ศรีสุภา ไปโดยปริยาย
ส่วนนายด่านฟอร์มดีอย่าง นนท์ ม่วงงาม จาก เชียงใหม่ เอฟซี ก็ถูกโค้ชกาม่าดึงไปร่วมทัพ U23 จุดนี้ถ้าไม่มีอะไรพลิกโผ ศิวรักษ์
และฉัตรชัย น่าจะได้ผลัดกันลงเฝ้าเสาคนละหนึ่งเกมอย่างแน่นอน

#แนวรับแน่นปึ๊ก
แม้จะขาด มิก้า ชูนวลศรี ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บจนต้องถอดตัวออกจากทีมชุดนี้ไป แต่การที่ “โค้ชโต่ย”
มีทั้ง พรรษา, สุพรรณ, อดิศร เช่นเดียวกับ นัสตพล มาลาพันธ์ ที่กำลังทำผลงานได้ดีกับ พีที ประจวบฯ
ทำให้ทีมชาติไทยชุดนี้มีออปชั่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลางอยู่พอสมควร

ส่วนวิงแบ็กทั้งสองฝั่ง การที่มีทั้ง ทริสตอง โด กับ ธีราทร บุญมาทัน น่าจะตอบโจทย์โดนใจแฟนบอลไทยเป็นอย่างยิ่ง
รวมถึงการคัมแบ็กสู่ทีมชาติอีกครั้งของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม น่าจะทำให้ไทยมีตัวเลือกที่พร้อมสลับหมุนวียนกันอยู่ตลอดเวลา
ถือว่าขุมกำลังชุดนี้อยู่ในระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง

#มิดฟิลด์ชุดที่ดีที่สุดของทีมชาติไทยยุคปัจจุบัน
สองดูโอจาก เจลีก ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร) และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (โออิตะ ทรินิตะ)
คือ แข้งระดับบิ๊กเนมของทีมชาติไทยชุดนี้ แน่นอนว่าคลาสบอลระดับเอเชียของทั้งสองจะสามารถช่วยยกระดับให้ไทยลงต่อกรกับเจ้าบ้านในแดนกลางได้อย่างสนุก
เช่นเดียวกับการให้โอกาส “เจ้าชายโลมา” ที่ปัจจุบันสวมปลอกแขนกัปตันทีมให้กับ สมุทรปราการ ซิตี้ อย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่มีทั้งความเร็ว
และการผ่านบอลชนิดกล้าได้กล้าเสีย คอยเสียบในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์

ส่วนหน้าที่การตัดเกมนั้น “โค้ชโต่ย” ตัดสินใจดึงแข้งประสบการณ์สูงทั้ง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และสารัช อยู่เย็น มายืนปักหลักในแดนกลาง
ต้องดูว่าในวันนั้นทีมชาติไทยจะตัดสินใจเล่นด้วยแทคติกไหน เพราะทั้งเจ้าบาส และเจ้าตัง ล้วนแต่มีดีในคนละแบบ ขณะที่ดาวรุ่งพุ่งแรง
อย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน ก็อาจจะถูกจับโยกขึ้นไปเล่นเป็นแนวรุกกึ่งปีก
เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าตัวได้ใช้จุดเด่นที่ชัดที่สุดอย่าง สปีดอันจัดจ้านเข้าเล่นงานทีมชาติจีนแบบไม่เกรงกลัว เมื่อบวกกับชื่อของ สรรวัชญ์ กับสุมัญญาเข้าไป
มองว่ายังไงแดนกลางของไทยชุดนี้ก็ยังยอดเยี่ยม และเผลอๆ อาจจะเป็นชุดที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ด้วยซ้ำ

#แดนหน้ากับเกมที่100ของธีรศิลป์
แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงคาแรกเตอร์กัปตันทีมที่เป็นคนพูดน้อยเกินไป แต่ในเรื่องของฝีเท้าต้องบอกเลยว่า ธีรศิลป์ เองก็พร้อมจะต่อยหนักให้ทุกคนเห็นในนัดนี้
เนื่องจากนี่จะเป็นการลงสนามในนามทีมชาติเป็นนัดที่ 100 ของเจ้าตัว บวกกับความมั่นใจหลักเบิกสกอร์แรกในซีซั่นนี้ได้แล้ว
น่าจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ “เทพมุ้ย” ลงสนามด้วยความกระหาย และหึกเหิมมากกว่าเดิม
ที่สำคัญยังเป็นการนำทีมชาติไทยเดินหน้าล้างแค้นให้ได้หลังพ่ายมาในศึกเอเชียน คัพ 2019 ที่ยูเออี

แม้เราจะเดินทางไปร่วมแข่งขันในรายการนี้ด้วยการเป็นทีมที่มีดีกรีต่ำที่สุด แต่นั่นหาใช่ปัญหา
เพราะในโลกของฟุตบอลไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ฟุตบอลไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ตายตัวทั้งนั้น
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ “หัวใจ” ของคุณเท่านั้นว่าพร้อมที่จะสู้ในฐานะตัวแทนของคนไทยกว่า 70 ล้านคนหรือไม่…

เชียร์ไทย เชียร์ทั้งใจ !!!

สำหรับโปรแกรมการเเข่งขันรายการ “ไชน่า คัพ 2019” มีดังต่อไปนี้

#ทีมชาติจีน VS #ทีมชาติไทย
วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ณ สนามกว่างซี สปอร์ต เซนเตอร์ ,กว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

#ทีมชาติอุรุกวัย VS #ทีมชาติอุซเบกิสถาน
วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ณ สนามกว่างซี สปอร์ต เซนเตอร์ ,กว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

โดยผู้ชนะจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และผู้แพ้จะลงเล่นนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกัน (25 มีนาคม 2562)
#SinghaWorldOfFootball #บอลไทย#ChinaCup2019 #ทีมชาติไทย

 

 

 

 

BACK