"ปีศาจแดง" หรือ "สิงห์บลู" ใครคู่ควรกับตั๋ว UCL ใบสุดท้าย?
#เชลซี ผู้จับจองโควต้าสุดท้ายพื้นที่ไปลุยศึก #ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ณ เวลานี้
#แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผู้ท้าชิงที่ตามหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” อยู่สามคะแนน
ทั้งสองทีมเหลือโปรแกรมลงเตะในลีก “สามนัด” เท่ากัน
และหนึ่งในสามเกมนั้น พวกเขาจะต้องลงสนามดวลกันในสุดสัปดาห์นี้ !!!
ดังนั้นเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์นี้จึงเปรียบเสมือนศึกแย่งชิงตั๋วไปลุยถ้วยยุโรปใบใหญ่ ใบสุดท้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
แล้วใครหล่ะที่คู่ควรกับอันดับที่สี่ในตารางพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ?
#มุมแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ความพ่ายแพ้ 7 จาก 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ รวมถึงความพ่ายแพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบหมดรูป
ได้กลายเป็นแผลในใจที่ทำให้แฟนบอลยูไนเต็ดส่วนใหญ่ถึงกับถอดใจ และตั้งคำถามกับการทำงานของนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์หลายๆ คนในทีม
รวมถึงแทคติกของกุนซือใหม่ถอดด้ามอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เริ่มไม่เป็นไปดั่งฝันของเหล่า "เร้ด เดวิลส์" ว่า
ถึงเวลาแล้วรึยังกับการยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แต่ทว่าโบราณเคยกล่าวไว้ว่า "สงครามยังไม่จบ อย่างเพิ่งนับศพทหาร" ฟุตบอลก็เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มักจะมีพลังแฝงอะไรบางอย่างในเกมที่เต็มไปด้วยความหมายแบบนี้เสมอ แถมครั้งสุดท้ายที่เหล่า "สิงห์บลู" บุกมายัดเยียดความปราชัย
ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ครั้งสุดท้ายนั้นต้องย้อนกลับไปถึงปี 2013 เรียกได้ว่า "โรงละครแห่งความฝัน" ยังเป็นสังเวียนที่แอบเฮี้ยนพอสมควรกับยอดทีมจากลอนดอน
ด้วยความชอกช้ำอย่างต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ บวกกับสถานการณ์ที่มันบีบให้พวกเขาต้องเปิดบ้านเอาชนะให้ได้สถานเดียว
หากยังหวังไปอวดฝีเท้าใน ยูซีแอล ซีซั่นหน้า การลงสนามต่อหน้าศรัทธาชาวชนะผีแดงในบ้าน จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยกระตุ้น
ให้ลูกทีมของ โอเล่น กุนนาร์ โซลชา ต้องตัดสินใจเปิดเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่วินาทีแรก เพราะมิเช่นนั้น
อาจจะส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเดินเกมในตลาดซื้อขายนักเตะก่อนปีที่จะมีการฟาดแข้งศึกยูโร 2020
#มุมน้ำเงิน เชลซี
จริงอยู่ที่ ยอดทีมจากลอนดอนทีมนี้จะกุมความได้เปรียบกว่าเจ้าถิ่นเล็กน้อย ด้วยสามคะแนนที่มีอยู่ในมือ แต่การที่พวกเขายังต้องลงเล่นในศึกยูโรป้า ลีก รอบตัดเชือก
กับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต บวกกับการต้องไปเจอกับ วัตฟอร์ด และเลสเตอร์ ซิตี้ ในสองนัดสุดท้ายของฤดูกาลย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน
แถมยังมี อาร์เซน่อล ที่ทำแต้มจ่อมาเหลือแค่แต้มเดียวคอยจ่อคอหอยเช่นนี้ หาก ซาร์รี่ และลูกทีมไม่ยอมเผด็จศึกในเกมนี้ เห็นทีพวกเขาก็มีแววลำบากเช่นกัน
เพราะความแน่นอน คือความไม่แน่นอน ประสบการณ์ของ ซาร์รี่ และนักเตะหลายๆ คนในทีมน่าจะรู้ดีว่า พวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น
หากสามารถตัดหอกข้างแคร่ทีมแรกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ออกไปจากวงโคตรการลุ้นตั๋ว ยูซีแอล ใบสุดท้ายออกไปเป็นทีมแรก
ดังนั้นเชื่อว่านัดนี้ เชลซี ของกุนซือแดนมักกะโรนีรายนี้คงไม่มาเล่นเพียงเพื่อผลเสมอเป็นแน่ เพียงแต่รูปเกมอาจจะเน้นความรัดกุม
และพร้อมอาศัยความมหัศจรรย์ของ เอเด็น อาซาร์ บวกกับ กอนซาโล่ อิกวาอิน ที่กลับมาพังประตูได้ในเกมล่าสุด
น่าจะช่วยให้หัวหอกอาร์เจนไตน์รายนี้มีความมั่นใจ และอยากจะทำผลงานให้เป็นที่ประทับใจแฟนบอล "สิงห์บลู" ในเกมใหญ่แบบนี้
ผลเสมอในเกมล่าสุดกับ เบิร์นลีย์ น่าจะเป็นสัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายว่า เชลซี จะเล่นด้วยความประมาทไม่ได้อีกแล้ว เพราะทุกคะแนน
และทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนแต่มีผลต่ออันดับ เม็ดเงิน และอนาคตของสโมสรอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้ เพราะอย่างน้อยที่สุด การได้ไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ก็เป็นมาตรวัดสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า คุณยังเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ของเกาะอังกฤษ และแผ่นดินยุโรปต่อไป
22.30 ของวันอาทิตย์นี้ คอบอลตัวจริง และแฟนๆ Singha Wold Of Football ต้องไม่พลาดกับ "ซูเปอร์บิ๊กแมตช์" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เชลซี
แล้วเราจะได้รู้กันว่าใครกันที่คู่ควรกับตั๋ว UCL ใบสุดท้าย… คุณหล่ะ คิดว่าใคร ?
#SinghaWorldOfFootball #Chelsea #ManU#PremierLeague