BACK

 

 

เชลซี VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกแย่งชิงตั๋วแชมเปี้ยนลีกใบสุดท้าย

20 ก.พ. 2563

เชลซี vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ศึกแย่งชิงตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ใบสุดท้าย ?

การพบกันของทีมระดับ “ท็อปซิกซ์” ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คงไม่ใช่ทีมจากย่านเดียวกันอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ อาร์เซน่อล หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเต็มไปด้วยที่สุดของความมันส์ทั้งใน และนอกสนามเท่านั้น เพราะการพบกันของทีมระดับ “เต้ย” ในอังกฤษมักมีสิ่งเดิมพันเสมอ ซึ่งการพบกันระหว่าง “สิงโตนํ้าเงินคราม” เชลซี กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ขณะนี้ ที่ เชลซี เกาะอยู่อันดับ 4 ของตารางอย่างเหนียวแน่น กับ แมนยูฯ ที่มีแต้มห่างจาก เชลซี ทีมอันดับ 4 เพียงหกคะแนน อาจเป็นศึกชิงตั๋วขบวนสุดท้ายเพื่อไปฟาดแข้งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021…

สำหรับเจ้าบ้าน เชลซี ตั้งแต่ได้ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003 ทีมก็มีเป้าหมายที่แน่ชัดขึ้น ซึ่งนั่นคือความกระหายในการประสบความสำเร็จกับทุกรายการที่ลงแข่งขัน

เชลซี เปลี่ยนเฮดโค้ชมากมายชนิดนับไม่ถ้วนภายใต้ร่มเงาของเศรษฐีรายนี้ ซึ่งปี 2020 คนที่ อบราโมวิช ไว้ใจให้มาสร้างประวัติศาสตร์แก่ทีมทั้งๆ ที่ขณะนั้นถูกฟีฟ่าสั่งแบนไม่ให้ซื้อแข้งใหม่ คือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่มีประสบการณ์การเป็นกุนซือใหญ่มาเพียงปีเดียวก่อนหน้านี้กับทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้

ทว่า อดีตกองกลางคนสำคัญของ เชลซี ดันตอบแทนความไว้วางใจแก่ “เสี่ยหมี” ได้อย่างดี หลังพาทีมมีสไตล์การเล่นเกมบุกและการเข้าทำที่ชัดเจนจากความเข้าใจกันของดาวรุ่งในทีมเป็นหลัก… จนทำให้ “สิงห์บลูส์” ได้ลุ้นโควต้าลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปถ้วยใหญ่แบบเต็มตัว

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในอดีต เป็นทีมที่ปั้นนักฟุตบอลมาประดับวงการลูกหนังจนเป็นดาวคํ้าฟ้าตลอดกาลหลายราย ทว่าฟุตบอลคือลูกกลมๆ ที่มีลมอยู่ข้างใน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่ผมพูดแบบนี้ เพราะ “ปีศาจแดง” ทีมนี้ไม่ใช่ทีมเดิมที่ผมเคยเห็นเหมือนชุด Class of ‘92 ที่มีดาวรุ่งฝีเท้าระดับโลกหลายคนลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงเสมอ

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มที่ว่าแย่ๆ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ “เพชรฆาตหน้าทารก” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มักผีเข้า ฟอร์มดีผิดหูผิดตาเสมอยามเจอกับทีมชื่อชั้นระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบ้าน อัด เชลซี ขาดลอย 4-0, เเบ่งแต้ม ลิเวอร์พูล ด้วยผลเสมอ 1-1 , อัด แมนฯ ซิตี้ คา เอติฮัด สเตเดี้ยม 2-1 รวมถึง เปิดบ้านเฉือน สเปอร์ส 2-1

ทว่าสำหรับแมตช์นี้ สิ่งที่ เชลซี ได้เปรียบอยู่คือ “คะแนน” ที่นำพลพรรค “ปีศาจแดง” อยู่ 6 แต้ม และการลงเล่นใน “รังเหย้า” ที่พวกเขายังไม่ปราชัยให้กับทีมใดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ของทีมที่เตรียมจะได้ ฮาคิม ซิเย็ค มาเสริมแนวรุก ทำให้ทุกอย่างดูสดใส เช่นกันกับขวัญกำลังใจที่นักเตะค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้ไปยูซีแอล

เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่แม้จะโดน เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถลุง 4-0 ในแมตช์เปิดสนามศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/2020 แต่อย่าลืมว่า ณ ขณะนั้น แลมพาร์ด ยังมีเวลาไม่มากพอที่จะหาสูตรสำเร็จอันกลมกล่อมเพื่อพร้อมฟาดฟันกับคู่แข่งทุกรูปแบบเหมือนที่ทำได้ในปัจจุบัน ด้วยการใช้ แทมมี่ อับราฮัม เป็นกองหน้า โดยมีปีกตัวจี๊ดอย่าง วิลเลี่ยน และ ฮัดสัน-โอดอย ขนาบข้างขวา-ซาย และมี เมสัน เมาท์ ปั้นเกมให้จบสกอร์

แต่คำกล่าวที่ว่า “เกมยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” อาจถูกเนรมิตขึ้นมาอีกครั้งภายใต้แมตช์ที่ถูกเดิมพันต่อโควตายูซีแอลเฮือกสุดท้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นไปได้

เพราะล่าสุด สหพันธ์ลูกหนังยุโรป หรือ ฟีฟ่า ประกาศลงโทษแบน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก ตลอด 2 ฤดูกาลหน้า จากการทำผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ หรือ กฎด้านการเงิน อาจทำให้ “ผี” ทีมนี้ฟื้นจากหลุม เพราะอย่าลืมว่า หาก แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดผีเข้า บุกไปคว้าสามแต้มคารังเหย้าของ เชลซี ได้ แต้มของพวกเขาจะไล่จี้ เชลซี เหลือเพียง 3 คะแนน และยังจะสถาปนาเป็นทีมขึ้นมาลุ้นโควตาตั๋วใบสุดท้ายของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างเต็มตัว เพราะเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ถูกตัดสิทธิ์ บรรดาทีมอย่าง เอฟเวอร์ตัน, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, วูล์ฟฯ รวมถึง อาร์เซน่อล ที่ยังไม่สามารถรักษามาตรฐานการเล่นของทีมตนเองได้สมํ่าเสมอ คงไม่ดีพอที่จะได้โอกาสไปโลดแล่นในเวทีฟุตบอลสโมสรยุโรปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” เป็นแน่

#หากแมนยูชนะเชลซี #สเปอร์สคงเป็นคู่แข่งที่สมนํ้าสมเนื้อที่สุดในการชิงตั๋วลุยยูซีแอลใบสุดท้าย

อย่างที่เล่าไปก่อนหน้า 4 สโมสรที่กล่าวมา ต่างโชว์ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ คงจะมีแต่ “ไก่เดือยทอง” ที่จะคอยเป็นหอกข้างแคร่ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปไม่ถึงฝัน เพราะอย่าลืมครับ นับตั้งแต่ฤดูกาล 2015 เป็นต้นมา สเปอร์ส ปิดซีซั่นด้วยการติดท็อปโฟร์ทุกครั้ง… ต่างกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จบท็อปโฟร์ได้เพียงหนเดียว

#ถ้าเชลซีชนะเเมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #คงเป็นการเรียกความมั่นใจชั้นดีก่อนฟาดแข้งกับสเปอร์ส

ซีซั่นนี้ ยามใดที่ เชลซี ต้อง พบกับทีมท็อปซิกซ์ มักจะเล่นดี แต่ไม่ดีพอจะชนะ หากเกมคืนวันจันทร์นี้ลูกทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด ปราบ “ปีศาจแดง” ได้… จะ สเปอร์ส ที่ว่าเจ๋ง เชลซีก็พร้อมยํ้าแค้นด้วยการเชือดนิ่มแบบ “ครึ่งฤดูกาลแรก” แน่นอน

#DIDYOUKNOW

รู้หรือไม่ว่า หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี ได้ในแมตช์นี้ จะเป็นการทำสถิติชนะ 2 นัดติดกันในลีกครั้งแรกของ ทัพ “ปีศาจแดง” เหนือ พลพรรค “สิงโตนํ้าเงินคราม” ตั้งแต่ฤดูกาล 1987/1988

นอกจากนี้ ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังทำสถิติชนะ เชลซี ได้ใน 2 ทัวร์นาเมนท์ จากศึกพรีเมียร์ลีก และ คาราบาว คัพ เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ นับตั้งแต่ ลิเวอร์พูล เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 2011/2012

8 จาก 13 ประตูของ แทมมี่ อับราฮัม ศูนย์หน้าดาวโรจน์ของ เชลซี ที่ยิงได้ในศึก พรีเมียร์ลีก ทำให้ทัพ “สิงห์บลูส์” ขึ้นนำคู่แข่งก่อน

นี่จึงเป็นแมตช์ที่ควรค่าแก่การชม เพราะนอกจากศักดิ์ศรีที่ขี่คอกันอยู่ สิ่งสำคัญคือ การแย่งชิงโควตาศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ที่อาจทำให้ทั้งสองทีมยอมทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และทำทุกสิ่งให้ทีมได้ไปโลดแล่นบนผืนฟลอร์หญ้าในศึก ยูซีแอล ฤดูกาลหน้า...

ทั้งนี้ แฟนฟุตบอลชาวไทย และคอบอลอังกฤษทุกท่าน เตรียมพบกับกิจกรรมดีๆ จากทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก การถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสู่คนไทย 3 ฤดูกาลเต็ม พร้อมเต็มอิ่ม อัดแน่นครบทุกการวิเคราะห์ และทุกเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลไทย และฟุตบอลรอบโลกได้ทางเพจ Singha World Of Football คอบอลตัวจริง ห้ามพลาด !!!
#SinghaWorldofFootball #ManU #Chelsea #PremierLeague
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

 

 

BACK