"2020 FA Community Shield"
เมื่อ "ปืน" และ "หงส์" ต้องการเริ่มต้นซีซั่นด้วย "โล่แชมป์"
.
เหลือเชื่อว่าหลังจากปิดฉากฤดูกาล 2019/2020 ได้ไม่ทันไร ศึกลูกหนังอังกฤษที่ว่ากันว่าได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกก็จะถือฤกษ์กลับมาฟาดแข้งกันทันที
เนื่องด้วยสถานการณ์โคโรน่าไวรัส หรือ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อปฏิทินฟุตบอล ทำให้ซีซั่นใหม่นั้นกลับมาแข่งขันกันเร็วกว่าที่คิด
.
แน่นอนว่าสิ่งที่เปรียบเสมือนการส่งสัญญาณว่าฟุตบอลอังกฤษจะกลับมาเดินหน้ากันต่อนั่นคงหนีไม่พ้น ศึกฟุตบอลถ้วยชิงโล่การกุศลที่แฟนบอลคุ้นกัน
ในชื่อ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ หรือ แชร์ริตี้ ชิลด์ (เดิม) โดยจะเป็นการพบกันของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก กับแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาลล่าสุดนั่นเอง
.
และในฤดูกาลนี้เป็นคิวของสองทีมที่มีแฟนบอลอยู่ทั่วทุกมุมโลก ทั้ง อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล โดยเฉพาะฝั่ง “หงส์แดง” ที่ล่าสุดเพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์
ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบสามทศวรรษ ท่ามกลางผลงานระดับ “มาสเตอร์พีซ” หลังคว้าชัยได้ถึง 32 จาก 38 แมตช์ พร้อมรักษาสถิติไม่แพ้ใคร
ใน แอนฟิลด์ ตลอดทั้งฤดูกาล ขณะที่ อาร์เซน่อล นั้นต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าเป็นฤดูกาลที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง หลังจบในอันดับที่ 8 ของตาราง
พร้อมมีแต้มตามหลังทีมแชมป์ถึง 43 คะแนน นี่คือปรากฏการณ์ที่เหล่าสาวก “ปืนใหญ่” อาจจะไม่คุ้นชินกันสักเท่าไหร่
.
แต่ถึงอย่างไร อย่างน้อยการคว่ำคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เชลซี พร้อมผงาดชูโทรฟี่แชมป์ที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง เอฟเอ คัพ และคว้าสิทธิ์ไปลุยฟุตบอลยุโรป (ยูโรป้า ลีก)
ได้อย่างเฉียดฉิว ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่พอจะบอกได้ว่า อาร์เซน่อล ยังมีดีพอที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกันในยุคของ มิเกล อาร์เตต้า
.
อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2020/2021 นั้นถือได้ว่าเดิมเกมในตลาดซื้อขายนักเตะได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการปิดดีล วิลเลี่ยน จาก เชลซี มาแบบฟรีทรานส์เฟอร์
เช่นเดียวกับการคว้าวิงแบ็กโปรตุกีสอย่าง เซดริก โซอาเรส และปาโบล มารี มาแบบถาวร หลังจากก่อนหน้านี้อยู่ในฐานะการยืมตัว รวมถึง กาเบรียล มากัลเญส
ที่สื่อในยุโรปต่างลงความเห็นว่า หากไม่มีอะไรผิดพลาด แนวรับบราซิเลี่ยนรายนี้จะก้าวมาเป็นแข้งรายใหม่ของทีมอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด
เพราะซีซั่นที่ผ่านมา พวกเขาเสียประตูไปมากถึง 48 ประตู
.
ส่วนเกมรุก แน่นอนว่า มิเกล อาร์เตต้า คงไม่พอใจที่เห็นแค่ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยัง กับ อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ ช่วยกันผลิตสกอร์เพียงสองคน
เพราะลำพังมีแค่สองคนนี้ที่ยิงประตูได้มากกว่า 10 ประตูในลีก ซึ่งการเข้ามาของ วิลเลี่ยน จะช่วยให้ อาร์เซน่อล มีทางเลือกที่หลากหลายขึ้น
และอาจจะสามารถผนึกกำลังช่วยให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ หรือ นิโกล่าส์ เปเป้ กลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้งก็เป็นได้
.
ขณะที่แชมป์ลีกทีมล่าสุดอย่าง ลิเวอร์พูล แน่นอว่าซีซั่นนี้พวกเขาจะต้องเผชิญกับความกดดัน และความคาดหวังระดับมหาศาลจากสาวก “เดอะ ค็อป” ทั่วโลก
ที่ต้องการให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผลักดันให้ทีมสามารถยืนระยะกอบโกยความสำเร็จบนเกาะอังกฤษอย่างต่อเนื่องเหมือนกับที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ,
อาร์แซน เวงเกอร์ หรือ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยทำได้ตลอดสองทศวรรษของพรีเมียร์ลีก ถือเป็นภารกิจที่มี่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย
หากเทียบการเดินหมากในตลาดซื้อขายนักเตะของ ลิเวอร์พูล กับเพื่อนร่วมลีกที่จับจ่ายใช้สอยกันอย่างสนุกมือทั้ง เชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้
.
การได้ คอสตาส ซิมิกาส มาเพียงแค่คนเดียว อาจทำให้ใครหลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล ดูแข็งแกร่งน้อยกว่า เชลซี ที่ซีซั่นนี้อุดมไปด้วยแข้งใหม่ระดับเวิลด์คลาส
หรือแม้แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ตกเป็นข่าวกับ ลิโอเนล เมสซี่ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังตกเป็นข่าวว่าอาจจะเสีย จีจี้ ไวจ์นัลดุม ไปให้กับ บาร์เซโลน่า
แต่ถ้ามองเข้าไปดูขุนพลที่ คล็อปป์ มีอยู่ทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อลีซง เบคเกอร์, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต่ ฟีร์มีโน่
รวมถึงวิงแบ็กที่ดีที่สุดในลีกอย่าง ร็อบโบ้ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยังไง ลิเวอร์พูล ชุดนี้ก็ยังดูดีในแง่ของทีมเวิร์ค และความเข้าใจในเกม
ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ปลูกฝังไว้กับทีมอย่างเหนียวแน่น
.
ดังนั้น การโคจรมาพบกันของ อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล ใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งนี้ อาจจะไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมลองไฟธรรมดา เพราะ อาร์เซน่อล เอง
ก็หวังจะใช้แมตช์นี้ในการเรียกศรัทธาจากแฟนบอล พร้อมกับส่งสัญญาณไปยังบิ๊กทีมอื่นๆ ในลีกว่า หากดพวกเขาสามารถคว่ำแชมป์ลีกทีมล่าสุดอย่าง ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ได้
แสดงว่าพวกเขาก็มีดีพอที่จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง เพราะชึ้นชื่อว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขณะที่ ลิเวอร์พูล เอง
ที่เกือบเอาตัวไม่รอดในเกมอุ่นเครื่องนัดที่ผ่านมา ก็หวังจะให้โล่แชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ นั้นช่วยเรียกความมั่นใจของทีมให้กลับมาอีกครั้ง เพื่อประกาศศักดาว่า
จากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นการลงเล่นในรายการไหน เยอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีมก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อพาตัวเองไปยืนอยู่บนโพเดี้ยมแชมเปี้ยนส์นั่นเอง
.
โดยเกมศึกชิงโล่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2020 ระหว่าง อาร์เซน่อล กับ ลิเวอร์พูล จะลงทำการแข่งขันในคืนวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ณ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เริ่มคิกออฟตั้งแต่เวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย มาร่วมลุ้นกันว่าฝั่งไหนจะสามารถประเดิมซีซั่นใหม่ด้วยความสำเร็จ
ดั่งคำว่า “เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” คอบอลตัวจริงห้ามพลาด !!!
.
ทั้งนี้ แฟนฟุตบอลชาวไทย และคอบอลอังกฤษทุกท่าน เตรียมพบกับกิจกรรมดีๆ จากทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก
การถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสู่คนไทย 3 ฤดูกาลเต็ม พร้อมเต็มอิ่ม อัดแน่นครบทุกการวิเคราะห์
และทุกเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลไทย และฟุตบอลรอบโลกได้ทางเพจ Singha World Of Football คอบอลตัวจริง ห้ามพลาด !!!