BACK

 

 

"ศึกแชมป์ (เก่า) ชน (ว่าที่) แชมป์ ?"

19 ก.พ. 2564

"ศึกแชมป์ (เก่า) ชน (ว่าที่) แชมป์ ?"
.
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า การโคจรมาพบกันระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในสัปดาห์นี้
จะเป็นหนึ่งในเกมที่น่าสนใจที่สุดนัดหนึ่งในฤดูกาลนี้
.
เพราะนี่คือการต่อสู้กันของสองทีมหัวตาราง (จ่าฝูง และรองจ่าฝูง) ที่มีแต้มอยู่ห่างกันเพียงแค่หกคะแนน แน่นอนว่า หากเจ้าถิ่นอย่าง
“กว่างโซ้งมหาภัย” สามารถเก็บสามคะแนนได้ ช่องว่างดังกล่าวจะถูกบีบให้แคบลงทันตาเห็น และนั่นจะส่งผลกระทบต่อการไล่ล่าโทรฟี่
แชมป์ไทยลีกของ “บีจีพียู” อย่างไม่ต้องสงสัย
.
แต่ถ้าหากอาคันตุกะจาก ปทุมธานี ที่ขนสตาร์ทีมชาติไทยมาเต็มทีมมาแผลงฤทธิ์คว้าชัยออกจากรัง สิงห์ สเตเดี้ยม ออกไปได้ ก็คงพูดได้อย่างเต็มปากว่า
การคั่วแชมป์ในศึกไทยลีก 1 ซีซั่นนี้ ก็คงจะจบลงเร็วกว่าที่คิดเป็นแน่
.
เพราะบรรดาคู่แข่งระดับ “บิ๊กทีม” ในลีกนั้นล้วนแต่นัดกันทำผลงานได้ไม่คงเส้นคงวาด้วยกันทั้งนั้น
จะมีแค่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และการท่าเรือ เอฟซี เท่านั้น ที่ยังตามมาอยู่ห่างๆ
.
นอกเหนือจากนี้ เกมที่ สิงห์ สเตเดี้ยม ยังเปรียบเสมือนการต่อสู่กันระหว่าง “ทีมแชมป์เก่า” ที่ยังคงอยู่ในเส้นทางการป้องกันแชมป์กับทีมที่ใครต่อใคร
ต่างยกให้เป็น “ว่าที่” แชมป์ อย่าง บีจีพียู บวกกับศักดิ์ศรีความเป็น “สิงห์” ของทั้งสองทีม และแฟนบอลที่ต่างหวังให้ทีมรักคว้าชัยชนะกันทั้งสองฝั่ง
ฉะนั้นดีกรีความดุเดือดในสนามนั้นคงเต็มไปด้วยความดุเดือด และเข้มข้นอย่างไม่ต้องสงสัย
.
เช่นเดียวกับการแข่งขันระหว่าง เชียงใหม่ เอฟซี กับ ขอนแก่น เอฟซี ในศึกไทยลีก 2 ที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน เนื่องจาก “พยัคฆ์ล้านนา” กำลังต้องการแต้ม
เพื่อพาตัวเองเข้าใกล้พื้นที่เลือนชั้นอัตโนมัติให้ได้ ขณะที่ “เดอะ ทีเร็กซ์” เองก็หวังชัยชนะเพื่อหนีจากโซนตกชั้นให้ได้เช่นกัน ทั้งสองคู่ที่เกริ่นมา
จึงเป็นไปด้วยความสนุกที่เราจะมาวิเคราะห์กันว่า สุดท้ายแล้วใครมีโอกาสที่จะเดินออกจากดินแดนล้านนา (เชียงใหม่ - เชียงราย) ด้วยคำว่า “ชัยชนะ”
.
#สิงห์เชียงรายยูไนเต็ด vs #บีจีปทุมยูไนเต็ด
.
การตัดสินใจออกมาประกาศเตรียมใส่เสื้อแข่งขันใหม่เพื่อรับมือกับจ่าฝูงของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในนัดนี้ พร้อมข้อความ
“พร้อมเทหมดหน้าตักเพื่อแชมป์สมัยที่ 2 เท่านั้น !!!” คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าทัพ “กว่างโซ้งมหาภัย” นั้นให้ความสำคัญกับเกมนัดนี้มากแค่ไหน
.
เพราะด้วยช่องว่างแค่ 6 คะแนน กับระยะทางอีกร่วม 20 นัด หาก ทากิ มาซามิ และพลพรรค “กว่างโซ้งฯ”
ที่ยังคงตัวหลักจากชุดแชมป์ไทยลีก 2019 อย่างครบครัน นำโดย “เจ้าชายล้านนา” เอกนิษฐ์ ปัญญา, “ซ้ายสั่งตาย” ศิวกรณ์ เตียตระกูล
หรือฮาร์แมนกันตันทีมดีกรีทีมชาติไทยอย่าง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, สมคิด ชำนาญศิลป์
ที่เพิ่งถูก อากิระ นิชิโนะ เรียกติดธงเป็นหนแรก บวกกับ โชติภัทร พุ่มแก้ว ที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น
และคงเส้นคงวามากที่สุดคนหนึ่งในไทยลีก สามารถรวมใจกันลงสู้บนผืนฟลอร์หญ้าด้วยพลังของทีมเวิร์ค
พร้อมกับใช้ “ระบบการเล่น” เข้าเล่นงานใส่ “บีจีพียู” ในนัดนี้
แม้ว่าชื่อชั้นผู้เล่นอาจจะตกเป็นรองทีมเยือนอยู่นิดหน่อย หากแต่ก็แทบจะใช้คำว่า “เลเวลใกล้เคียงกัน” ได้ด้วยซ้ำ
เชื่อว่าแมตช์นี้เจ้าบ้านคงไม่ลงเล่นด้วยแทคติกเน้นเกมรับแต่เพียงอย่างเดียวเป็นแน่ อีกทั้งผลงานชนะ 5 จาก 6 นัดหลังสุดในลีก
ก็น่าจะเป็นสิ่งที่บอกทุกคนได้ว่า สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ยังคงแข็งแกร่งไม่ต่างไปจากซีซั่นที่แล้วอย่างแน่นอน
.
การพัฒนาตัวเองของ สมคิด ชำนาญศิลป์ และโชติภัทร พุ่มแก้ว ได้ทำให้ สิงห์ เชียงรายฯ ติดปีกราวกับได้แข้งใหม่มาอีกสองคน
ตลอดจนทำให้พวกเขามีทางเลือกในการจัดตัวผู้เล่นที่หลากหลาย และไม่ต้องยึดติดกับใคร จนมีเกมรุกทางริมเส้นที่น่ากลัวติดท็อปในลีกเลยก็ว่าได้
ต้องชมทั้งสองคนว่า ความมุ่งมั่น และความตั้งใจนั้นไม่เคยทำร้ายใคร และเชื่อว่า “ฮีม” กับ “จ๊อบ” พร้อมแล้ว
กับการพาทีมป้องกันแชมป์ในซีซั่นนี้ รวมถึงเกมบิ๊กแมตช์สัปดาห์นี้เป็นแน่
.
ด้านอาคันตุกะผู้มาเยือนอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นั้นกำลังอยู่ในช่วงเวลามั่นใจสุดขีด หลังรักษาสถิติไร้พ่าย พร้อมคว้าชัยได้ถึง 5 จาก 6 เกมหลังสุด
นับตั้งแต่เดือนกันยายน รวมถึงการพิชิตทีมใหญ่ในตารางทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี และทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้อย่างเสร็จสรรพ
บวกกับการขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตารางแบบมีช่องว่างให้ได้หายใจหายคอ และข่าวการเสริมทัพในเลกสองที่ได้แข้งระดับแม่เหล็กมาเพิ่ม
จึงไม่แปลกใจที่ใครๆ จะมองว่า อดีตแชมป์ไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาจะมีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสูงสุดทันทีที่กลับมาเล่นใน ไทยลีก 1
และแน่นอนว่านัดนี้ “บีจีพียู” ถูกยกให้เป็นทีมที่ถือไพ่เหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
.
แต่ถึงอย่างไร “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ก็ไม่ได้ประมาทแต่อย่างใด แถมยังมองว่า “กว่างโซ้งมหาภัย” คือทีมที่เต็มไปด้วยอันตราย
โดยเฉพาะพิษสงรอบตัวของนักเตะระดับแถวหน้าของทีม
.
“ยอมรับว่าเป็นเกมที่ยากมาก ต้องให้เกียรติ เชียงรายฯ ที่เป็นแชมป์เก่า ศักยภาพผู้เล่นล้นเหลือเหมือนเดิม แถมไม่ได้มีจุดที่ด้อยลงไป
"อย่างไรก็ตามเราก็ต้องเตรียมทีมให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดการเล่น รวมทั้งนักฟุตบอลก็ต้องทำงานกันหนักให้มากขึ้น
เพื่อเป้าหมายในการจะไปแบ่งแต้มกลับออกมาให้ได้ เชื่อว่าเกมนี้เราน่าจะเล่นฟุตบอลสู้กับทีมเจ้าบ้านได้อย่างสนุกที่สุด"
.
แน่นอนว่าชื่อของ สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย, ฉัตรชัย บุตรพรม คือกลุ่มผู้เล่นที่ดีที่สุดของประเทศในยุคปัจจุบัน
ไม่รวมแข้งพลังหนุ่มทั้ง สันติภาพ จันทร์หง่อม, สิโรจน์ ฉัตรทอง, เชาว์วัตน์ วีระชาติ หรือ เจนรบ สำเภาดี ที่เข้ามาเติมเต็มให้ทีมชุดนี้ดุดันขึ้น
เมื่อรวมกับตัวต่างชาติทั้ง อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, อิรฟาน ฟานดี้, ดาร์เนียล การ์เซีย โรดริเกซ และนอร์ชารูล อิดลัน
ทั้งหมดนี้คือทีมในฝันที่ไม่ว่าทีมไหนที่เจอก็ต้องเกิดอาการ “ขวัญผวา” ไม่น้อย ซึ่งบทพิสูจที่ สิงห์ สเตเดี้ยมในวีคนี้จะเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่คอยตัดสินว่า
พวกเขาพร้อมแล้วรึยังกับการก้าวสู่การเป็น “เต็งแชมป์” อย่างเป็นทางการ
.
ความสมดุลในเกมรับ และความแน่นอนในเกมรับ คือจุดแข็งที่ทำให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในจุดที่ปลอดภัย
แต่แน่นอนว่าความประมาทย่อมเป็นหนทางแห่งความตาย และนั่นคือสิ่งที่ “โค้ชโอ่ง” จำเป็นต้องทำทุกอย่าง
เพื่อปลุกเร้าให้แข้งทุกคนในทีมลงเล่นวาดลวดลายในสนามด้วยความมุ่งมั่น และกระหาย เพราะสามคะแนนในเกมนี้
มีค่าไม่ต่างไปจาก 6 แต้มเลยทีมเดียว เพราะคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาในสุดสัปดาห์นี้เป็นทั้งทีมแชมป์เก่า และทีมที่กำลังทำคะแนนไล่พวกเขาขึ้นมานั่นเอง
.
#เชียงใหม่เอฟซี vs ขอนแก่นเอฟซี
.
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ทั้งสองทีมต่างอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องขับเคี่ยว และไล่ล่าตั๋วเลื่อนชั้นใบสุดท้าย
กระทั่งต้องมาตัดสินกันเองในเกมนัดสุดท้ายของซีซั่น ที่รังเหย้าของ “เดอะ ทีเร็กซ์” สุดท้ายเป็น เชียงใหม่ เอฟซี
ที่มาแบ่งแต้มได้พร้อมกับเลื่อนชั้นสู่ศึกไทยลีก 1 ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์
.
มาถึงวันนี้ ทั้งสองทีมต้องกลับมาต่อสู้บนเวทีลีกพระรองอีกครั้ง ด้วยสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม โดยฝั่ง “พยัคฆ์ล้านนา” นั้นต้องการสามคะแนน
เพื่อพาตัวเองให้ขยับใกล้พื้นที่เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ (อันดับ 1 และ 2) ให้ได้มากที่สุด (มี 20 คะแนนจาก 11 นัด)
แม้ว่าพวกเขาจะพลาดท่าต่อ หนองบัว พิชญ เอฟซี กับเกมในบ้านนัดล่าสุด แต่เชื่อว่าสามคะแนนการเมืองแพร่ บวกกับความร้อนแรงของ
เรียว มัตสึมูระ กับ ณัฐชัย ศรีสุวรรณ นั้นน่าจะทำให้พวกเขามุ่งมั่นกับการดับเครื่องผู้มาเยือนจากแดนอีสานให้ได้
.
ขณะที่ ขอนแก่น เอฟซี แม้ว่าฤดูกาลนี้พวกเขาจะมีผลงานที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก อีกทั้งยังมีปัญหาด้านเกมรุกอย่างชัดเจน
แต่ถึงอย่างไร การบุกมาเยือนแดนล้านาในวันอาทิตย์นี้
จะเป็นการวัดผลงานของกุนซือพลังหนุ่มอดีตแข้งทีมชาติไทยอย่าง จักรกริช บุญคำ ที่หวังสร้างเซอร์ไพรส์ลึกๆ ด้วยชัยชนะให้ได้เช่นกัน
เพราะอย่าลืมว่า “เดอะ ทีเร็กซ์” เองมีเกมรับที่ดีใกล้เคียงกับทีมบนหัวตารางเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้หากพวกเขาใช้เวลาที่เหลือในการปลดล็อกแนวรุก
พร้อมกับการปั้นเกมของ เซยะ ซูงิชิตะ ที่นำเป็นดาวซัลโวของทีมอยู่นะขณะนี้ ไม่รวมประสบการณ์การเซฟประตูของ นริศ ทวีกุล
ที่เป็นอดีตนายด่าน “พยัคฆ์ล้านนา” เชื่อว่าเป็นเกมที่สูสี และน่าลุ้นไม่น้อยเช่นกัน
.
เกมคู่ “ซูเปอร์ บิ๊กแมตช์” ระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะลงทำการแข่งขันกันในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ ณ สนามสิงห์ สเตเดี้ยม
เริ่มคิกออฟตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT HD
.
ขณะที่คู่ เชียงใหม่ เอฟซี กับ ขอนแก่น เอฟซี จะลงบู๊กันในวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่
เริ่มคิกออฟตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป สองแมตช์นี้คอบอลตัวจริงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง !!!
.
ทั้งนี้ แฟนฟุตบอลชาวไทย และคอบอลอังกฤษทุกท่าน เตรียมพบกับกิจกรรมดีๆ จากทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก
การถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสู่คนไทย 3 ฤดูกาลเต็ม พร้อมเต็มอิ่ม อัดแน่นครบทุกการวิเคราะห์ และทุกเรื่องราวที่น่าสนใจ
ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลไทย และฟุตบอลรอบโลกได้ทางเพจ Singha World Of Football คอบอลตัวจริง ห้ามพลาด !!!

#SWOF #BGPathumUnited #ChiangRaiUnited
#ChiangmaiFC #KhonKaenUnited

 

 

BACK