"The 1st Chiangmai Derby"
"เชียงใหม่ ดาร์บี้" ปฐมบทศึกช่วงชิงความเป็นหนึ่งใน "นพบุรีศรีนครพิงค์"

“ดอยสุเทพเป็นศรี
ประเพณีเป็นสง่า
บุปผชาติล้วนงามตา
นามล้ำค่านครพิงค์”

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า “เชียงใหม่” คือ “จิตวิญญาณ” ที่เปี่ยมไปด้วยด้วยวัฒนธรรมอันเลื่องชื่อ
มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก บวกกับการผสมผสานระหว่างความทันสมัย ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งได้อย่างลงตัว

และด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 700 ปี ศักดิ์ศรีความเป็นเมืองขนาดใหญ่ของประเทศที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน
ดังนั้น ความคาดหวังที่จะได้เห็นคำว่า “เชียงใหม่” ยืนหยัดอยู่ในแถวหน้าในทุกๆ เรื่อง ย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

“ฟุตบอลก็เช่นเดียวกัน”

ก่อนหน้านี้ แฟนบอลบ้านเราอาจจะคุ้นชื่อของ เชียงใหม่ เอฟซี ในฐานะสโมสรลูกหนังทีมเดียวของจังหวัด
ที่ยืนหยัดอยู่บนเวทีการแข่งขันฟุตบอลอาชีพระดับสูงของประเทศเพียงทีมเดียว หากแต่วันนี้ พวกเขากำลังจะได้ลงเล่นกับทีมร่วมเมืองอีกหนึ่งทีม
ที่ก้าวกระโดดจากเวทีลูกหนังระดับสมัครเล่น สู่การแข่งขันในเลเวลเดียวกันอย่าง “ไทยลีก 2” ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปีมาอย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

ใช่ครับ เรากำลังจะพูดถึง “เชียงใหม่ ดาร์บี้” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์พงศาวดารลูกหนังไทย

จริงอยู่ที่ทั้งสองทีมอาจจะเคยพบกันในเกมอุ่นเครื่องต่างๆ มาตลอดระยะเวลา 3-4 ปีหลัง
หากแต่ทั้ง เชียงใหม่ เอฟซี และเชียงใหม่ ยูไนเต็ด นั้นยังไม่เคยลงสนามพบกันในลีกมาก่อนแม้แต่นัดเดียว

หากจะเรียกแมตช์นี้ว่า “ปฐมบท” การช่วงชิงความเป็นหนึ่งในเรื่องฟุตบอลของทั้งสองทีมก็คงจะไม่ผิดแต่อย่างใด

“เชียงใหม่ เอฟซี” แน่นอนว่าพวกเขาคือทีมฟุตบอลอาชีพทีมแรกของจังหวัด ฐานแฟนบอลอันหนาแน่น
คือจุดแข็งที่ทำให้ “พยัคฆ์ล้านนา” ยังคงยืนหยัดอยู่ในวงการมาร่วมๆ สองทศวรรษ
แน่นอนว่าจุดพีคที่สุดของพวกเขาคงจะเป็นการผงาดเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาล 2018
ถึงแม้วันนี้พวกเขาจะหล่นมาเล่นในลีกพระรอง แต่ถึงอย่างไร ชื่อของ เชียงใหม่ เอฟซี ก็ยังอยู่ในกลุ่มสารบบทีมที่มีโอกาสลุ้นเลื่อนชั้นอยู่เสมอ

แม้จะพบกับความพ่ายแพ้ 2 จาก 3 แมตช์หลังสุดในลีก หากแต่การเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดเป็นอันดับ 4 ในลีก ภายใต้การนำของ เรียว มัตสึมูระ
แนวรุกเลือดซามูไร บวกกับการซัพพอร์ตจาก ยูกิ บัมบะ และอรรถวิท สุขช่วย ทำให้ เชียงใหม่ เอฟซี ยังคงน่ากลัวเสมอยามได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง
ที่คาดว่าจะเข้ามาชมแมตช์ “เชียงใหม่ ดาร์บี้” เต็มความจุ 50 % ตามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนดอย่างแน่นอน

ขณะที่ “เชียงใหม่ ยูไนเต็ด” แน่นอนว่าการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด บวกกับการยกเครื่องรีแบรนด์ทีมทุกจุดทั้งใน และนอกสนาม
ทำให้พวกเขาวาดฝันที่จะเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ให้ได้เช่นกัน จุดแข็งของทัพ “ช้างเผือก” คือ “เป้าหมายที่ชัดเจนมากๆ”
นี่คือสิ่งที่ทำให้ทีมพยายามเติมจุดที่ขาดในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะตัวนักเตะ และเฮดโค้ช ที่ต้องตอบโจทย์คาแรกเตอร์ดังกล่าว

อีกทั้งประสบการณ์ของ เมลวิน เดอ ลูว์, ศิริศักดิ์ ไฝดง, พูลศักดิ์ มาสุข และบวร ตาปลา ที่ล้วนแต่เขี้ยวลากดินในวงการลูกหนังบ้านเรา
ฅเชื่อว่าอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในแมตช์นี้จะเป็นเรื่องของ “ประสบการณ์” ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันอย่าง “เชียงใหม่ ดาร์บี้”

ขณะที่คาแรกเตอร์ของสองกุนซือทั้ง อำนาจ แก้วเขียว และเดนนิส อมาโต้ เองก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ
เพราะทั้งสองขึ้นชื่อในเรื่องของความดุดันทั้งในห้องแต่งตัว และขอบสนาม บวกกับวินัยในเรื่องของแทคติก
นี่จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของทั้งสองคนว่า ใครกันที่จะเป็นฝ่ายที่อ่านใจ และเอาชนะกันในเรื่องแทคติกเกมนี้ได้

แม้ว่าวงการลูกหนังบ้านเราจะมี “อีสาน ดาร์บี้” อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, หรือดาร์บี้ในแถบๆ กรุงเทพมหานคร
หากแต่ “เชียงใหม่ ดาร์บี้” นั้นมีความแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะนี่คือการลงสนามต่อสู้กันของทีมในจังหวัดเดียวกัน
ไม่ต่างอะไรไปจาก “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้”, “ลอนดอน ดาร์บี้” หรือ “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” เลยแม้แต่น้อย วัดได้จากการโหมโรงของแฟนบอลทั้งสองฝั่ง
ที่เรียกได้ว่าน่าสนใจ เพราะทำให้หลายๆ คนสัมผัสได้ถึงการขับเคี่ยวกันแบบ “ทีมร่วมเมือง” เฉกเช่นฟุตบอลต่างประเทศอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะกระแสในโลกโซเชียล นั่นคือสีสันที่ช่วยผลักดันให้เกมนี้มีมูลค่าทางการตลาดที่สูงมากยิ่งขึ้น
และช่วยส่งให้คำว่า “เชียงใหม่ ดาร์บี้” เป็นที่สนใจของแฟนบอล และสื่อกีฬาทั้งประเทศไปโดยปริยาย

การโคจรมาพบกันของทั้งสองทีมในเกมนี้จึงเปี่ยมไปด้วยความสำคัญ หาใช่เพียงแค่โปรแกรมนัดที่ 17 ของฤดูกาลแต่อย่างใด หากแต่เป็น “ศักดิ์ศรี”
ที่เชื่อว่าคงไม่มีใครยอมใคร และแน่นอนว่าคงเป็นกำไรแก่แฟนบอลอย่างเราๆ ที่จะได้ยลเกมที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ท่ามกลางความระอุดุเดือดทั้งในและนอกสนาม
สมกับการเป็นศึก “เชียงใหม่ ดาร์บี้” ที่เปรียบได้ดั่ง “ปฐมบท” ศึกช่วงชิงความเป็น “หนึ่ง” ใน "นพบุรีศรีนครพิงค์” อย่างแท้จริง

ศึก “เชียงใหม่ ดาร์บี้” ระหว่าง เชียงใหม่ เอฟซี กับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด จะทำการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมนี้
ณ สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เริ่มคิกออฟตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดทาง Youtube ช่อง T-Sports และ App “Mycujoo”

ทั้งนี้ แฟนฟุตบอลชาวไทย และคอบอลอังกฤษทุกท่าน เตรียมพบกับกิจกรรมดีๆ จากทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก
การถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสู่คนไทย 3 ฤดูกาลเต็ม พร้อมเต็มอิ่ม อัดแน่นครบทุกการวิเคราะห์ และทุกเรื่องราวที่น่าสนใจ
ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลไทย และฟุตบอลรอบโลกได้ทางเพจ Singha World Of Football คอบอลตัวจริง ห้ามพลาด !!!

#ChiangmaiUnited #CMUTD #ChiangmaiFC #CMFC
#SWOF #DerbyMatch