ความท้าทายครั้งใหญ่ ที่มีโทรฟี่แชมป์ไทยลีกเดิมพันของ
"TEERASIL DANGDA"
ว่ากันว่า “โอกาส” คือหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์ทุกคนล้วนแต่ถวิลหา บ้างก็คว้าได้ บ้างก็สุดเอื้อม
ท่ามกลางตัวแปรในชีวิตมากมายที่อาจจะทำให้เรา ทำได้ ทำไม่ได้ หรือ ไม่มีโอกาสได้ทำ
ฉะนั้นจงจำไว้ว่า หากคุณมีโอกาส คุณต้องคว้ามันไว้ให้ได้ ด้วยความกระหาย ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความตั้งใจ
โดยไม่ต้องสนใจว่าผลลัพธ์มันจะออกมายังไง ขอแค่คุณทำมันให้ดีที่สุดก็พอ
เหมือนกับที่ ธีรศิลป์ แดงดา ได้พิสูจน์ให้แฟนบอลบ้านเราได้เห็นมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา กับเลือดของความเป็นนักสู้ที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัว
การตัดสินใจเลือกที่จะสู้ไปพร้อมๆ กับการแบกศักดิ์ศรีนักฟุตบอลไทยไว้บนบ่า เพื่อออกไปไล่ล่าฝันยังต่างประเทศ
ถือเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อยสำหรับการเป็นแข้งจากอาเซียน หากแต่ “มุ้ย” ก็ยังฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหมดได้ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจให้สมกับการคว้าโอกาสมาได้...
“อูเด อัลเมเรีย” ที่แฟนบอลบ้านเราอดหลับอดนอนเพียงเพื่อได้เห็น มุ้ย วาดลวดลายบนผืนฟลอร์หญ้า จะห้านาที สิบนาที ธีรศิลป์ คนนี้ไม่มีอิดออด
กระทั่งเจ้าตัวจากรึกชื่อตัวเองอยู่บนหน้าพงศาวดารลูกหนังอาเซียนได้สำเร็จ หลังทำประตูได้ในศึกโคปา เดล เรย์ !!!
“ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า” การเปิดตัวระดับมาสเตอร์พีซตั้งแต่การทะยานโขกในเกมนัดแรก สู่การเป็นแข้งตัวหลักดีกรีรองแชมป์เจลีก
ถือเป็นความทรงจำที่ช่างงดงาม และน่าภาคภูมิใจ
“ชิมิสึ เอสพัลส์” แม้การเดินทางครั้งนี้จะไม่ได้สวยหรูเหมือนครั้งไหนๆ หากแต่ทุกๆ วินาทีในแดนอาทิตย์อุทัย และทุกประตูที่เกิดขึ้น
ยังเป็นการการันตีว่า ธีรศิลป์ คนนี้ ยังคงเต็มที่ และสู้ยิบตาในทุกๆ โอกาสที่ได้รับเสมอ
กระทั่งเป็น “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” สถานีลูกหนังป้ายต่อไปของ ธีรศิลป์ แดงดา
นี่อาจจะเป็นหนึ่งในดีลที่ไม่มีใครกล้าคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะด้วยความสามารถ และดีกรีศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของไทย
แน่นอนว่า ธีรศิลป์ ย่อมมีทางเลือกในการตัดสินใจมากมาย อีกทั้งการกลับบ้านของเจ้าตัวในครั้งนี้
ย่อมต้องมีความพิเศษต่างไปจากการกลับบ้านในทุกๆ ครั้ง
โทรฟี่แชมป์ไทยลีกเท่านั้นที่ “ธีรศิลป์” ต้องการ และ “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” มอบความชัดเจนในทุกๆ อย่างให้กับเจ้าตัวได้
ด้วยวัย 32 ปี แน่นอนว่าการกลับบ้านครั้งนี้ของ มุ้ย นั้นล้วนแต่เต็มไปด้วยประสบการณ์ โดยเฉพาะชีวิตการค้าแข้งตลอดสองปีที่ ญี่ปุ่น
ที่คอยขัดเกลาให้หัวหอกรายนี้เต็มไปด้วยพิษสงรอบตัวในสนามอีกครั้ง
อีกทั้งการเตรียมได้ลงล่าตาข่ายเคียงข้าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ แข้งต่างชาติที่ดีที่สุดตลอดกาลของไทยลีก บวกกับการได้หวนร่วมงานกับน้องๆ ที่รู้ใจ
ทั้ง สารัช อยู่เย็น, ธิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และพี่น้องที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันในสีเสื้อทีมชาติไทยอีกหลายๆ คน
ล้วนแต่เป็นความท้าทายในสนามที่รอคอย ธีรศิลป์ อยู่
28 คือหมายเลขที่เจ้าตัวจะสวมใส่ให้กับทัพ “บีจีพียู” ในเลกที่สอง แน่นอนว่าเจ้าตัวเองก็ยังหวังที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับต้นสังกัดใหม่
ด้วยการระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาเพื่อตอบแทนทุกๆ การรอคอย และทุกๆ ความไว้วางใจจากแฟนบอล เพราะ “ฟุตบอล” ไม่เคยทรยศใคร
และธีรศิลป์ เองก็เลือกที่จะใช้ “ฟุตบอล” เป็นตัวกำหนดชีวิตทุกอย่าง
เราจึงเห็นเจ้าตัวยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งใน และนอกสนามเสมอชนิดไม่เคยมีข้อบกพร่อง
แม้ลมพายุรอบตัวนั้นจะพัดรุนแรงแค่ไหน แต่นั่นก็มิอาจทำให้ต้นไม้ที่ชื่อว่า ธีรศิลป์ แดงดา นั้นถูกพัดล้มลงเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมจะมีแต่หยั่งรากลึกลงไป
และออกดอกออกผลเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพไม่มีเปลี่ยน ไม่ต่างไปจาก ผลไม้ที่ถูกบ่มจนได้ที่ และมีรสชาติที่อร่อยกว่าใคร
ด้วยประสบการณ์บนสีเสื้อทีมชาติไทยกว่า 104 นัด กับการถล่มประตูตลอดทั้งชีวิต (รวมสโมสร และทีมชาติ) เฉียดๆ หลัก 200 ประตู
บวกกับดีกรีที่เคยสัมผัสโทรฟี่แชมป์ทุกรายการในประเทศไทย หากเราจะบอกว่า ธีรศิลป์ แดงดา ยังคงเป็นศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย
ก็คงไม่ผิดแต่อย่างใด และเราเชื่อว่า ชื่อของ ธีรศิลป์ พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ในฐานะศูนย์หน้าผู้ยิ่งใหญ่ของ บีจีพียู ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
การก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จึงถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ที่มีโทรฟี่แชมป์ไทยลีกเดิมพันของ "ธีรศิลป์ แดงดา" อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ แฟนฟุตบอลชาวไทย และคอบอลอังกฤษทุกท่าน เตรียมพบกับกิจกรรมดีๆ จากทาง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก
การถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสู่คนไทย 3 ฤดูกาลเต็ม พร้อมเต็มอิ่ม อัดแน่นครบทุกการวิเคราะห์ และทุกเรื่องราวที่น่าสนใจ
ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลไทย และฟุตบอลรอบโลกได้ทางเพจ Singha World Of Football คอบอลตัวจริง ห้ามพลาด !!!
#SWOF #BGPU